15.0 A Neo Bank Has Come

กล่าวกันว่าธุรกิจการเงินการธนาคารได้ก้าวมาถึงช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบหลายร้อยปี การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เกิดเพียงจากปัจจัยด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่านั้น แต่เกิดจากแนวคิดที่ต้องวิธีการใหม่ๆ สะดวกกว่า และต้นทุนต่ำกว่าสำหรับบริการทางการเงิน โดยเริ่มต้นตั้งแต่พื้นฐาน อย่างไรก็ดี รูปแบบการใช้บริการทางการเงินไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบันหรือแม้แต่ในอนาคตนั้น ไม่ได้มีความแตกต่างกัน เรายังต้องการใช้เงินเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ เพื่อการออมและลงทุน หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยง สถาบันการเงินไม่ว่าในรูปแบบไหน ย่อมต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานเหล่านี้ แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนไปคือ "ทำอย่างไร"
ภาพประกอบจาก internet
สำหรับชุมชน FinTech แล้ว การเกิดขึ้นของผู้เล่นรายใหม่ๆ แนวคิดและบริการใหม่ๆ นั้นเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมาในแวดวงการเงินการธนาคาร และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ จริงอยู่ที่ว่า ในปัจจุบันยังไม่มีผู้เล่นรายใหม่รายใดที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ หรือผลกระทบกับธุรกิจในวงกว้าง ดึงดูดลูกค้าจำนวนมากออกไปจากผู้เล่นรายเดิมอย่างธนาคาร ในแบบเดียวกับที่ Amazon ทำกับเครือข่ายร้านหนังสือรายใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า พฤติกรรมของลูกค้าที่เคยยึดติดอยู่กับธนาคารแบบเดิมๆ ได้เปลี่ยนไป หรือมองอีกมุมหนึ่งคือ FinTech ได้ทำให้เกิดการบริการการเงินการธนาคารในอีกรูปแบบใหม่ๆ สร้างทางเลือกในการใช้บริการนั่นเอง แต่เป็นที่คาดกันว่า FinTech จะไม่ได้ทำให้ผู้ให้บริการธนาคารแบบเดิมต้องล้มหายตายจากไปอย่างสิ้่นเชิง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Blockbuster, Tower Records หรือ Barnes & Noble แต่จะเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งรายได้ อาจจะมีให้ธนาคารเดิมๆ ต้องเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะการควบรวมกิจการเพื่อความอยู่รอด การลดขนาดและจำนวนของเครือข่ายสาขา ผู้ให้บริการในกลุ่ม FinTech จะเข้ามาเสริมในบริการส่วนที่ธนาคารทำได้ไม่ดี ไม่คุ้มค่า สร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้คน หรืออาจจะเป็นธนาคารเอง ที่ปรับตัวเพื่อให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ประยุกต์เอาบริการจาก FinTech เข้ามาใช้เพื่อให้บริการกับลูกค้าของตนในอนาคต

Neo-bank เป็นคำที่หมายถึงผู้ให้บริการทางการเงินหรือธนาคารที่เน้นการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในธุรกิจการเงินการธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับกับชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เนตเป็นหลัก ออกแบบกระบวนการใหม่ๆ ตั้งแต่การเริ่มเข้ามาเป็นลูกค้า การพิสูจน์ตัวตน การเข้าถึงบริการ เน้นการให้บริการผ่าน mobile ตัดลดค่าธรรมเนียมหยุมหยิมออกไป โดยกลุ่มนี้มองว่า อนาคตของธุรกิจธนาคารจะไม่ใช่ธนาคารในแบบที่เรารู้จักในปัจจุบัน แต่จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน แทรกอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เป็นผู้ช่วยของเราทั้งในแง่การบริหาร การตัดสินใจทางการเงิน เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา เน้นให้เราสามารถควบคุมการเงินของเราได้ดีขึ้น

ในกลุ่ม Neo-bank ที่เด่นๆ ก็เช่น Moven (ก่อตั้งโดยคุณ King ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เอง) ซึ่งประกาศตัวว่าเป็น “the world’s first real-time mobile money tool” ที่มีจุดเด่นตรงการให้ลูกค้าทราบรูปแบบการใช้เงินจากการทำธุรกรรมแบบ real time เช่น เราใช้เงินช็อปปิ้งในเดือนนี้ไปแล้วเท่าไหร่ มากหรือน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าอย่างไร และ Simple กับจุดขาย “Safe-to-Spend” ซึ่งตรวจสอบยอดเงินของลูกค้ากับรายการที่ต้องการเก็บออมหรือต้องใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เพื่อให้ลูกค้าทราบยอดเงินเหลือที่สามารถใช้จ่ายจริงแบบ real time ตามหลักการออมก่อนใช้นั่นเอง

ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล การใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพทำให้เกิดความแตกต่าง ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านข้อมูล คงอีกไม่นานนักที่ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของเราจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง คำนวณ credit score ไปจนถึงช่วยในการวางแผนการออมและการลงทุนของเรา 

FinTech ประยุกค์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมกับกระบวนการคิดแบบใหม่ มาช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว สามารถให้บริการในหลากหลายช่องทาง รองรับธุรกรรมจำนวนมากๆ ในต้นทุนที่ต่ำกว่าธนาคารปกติทำได้ รวมการออกแบบเพื่อเน้นสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดีเยี่ยม การเชื่อมต่อกับข้อมูลจำนวนมากใน social media ผ่านทางช่องทางต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเรา การวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้บริการทางการเงินเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน 

15.0 A Neo Bank Has Come 15.0 A Neo Bank Has Come Reviewed by aphidet on 8:50 AM Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.