12.0 I, Robot and I'm Your Financial Adviser 2

บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี่ ที่เริ่มเข้าสู่บริการบริหารสินทรัพย์ส่วนบุคคล (PFM) อย่าง Geezeo ใช้เทคนิคในการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูล เพื่อศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมการจับจ่าย การใช้เงินของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้า เข้าใจสุขภาพทางการเงินของตัวเอง และสามารถบริหารการเงินได้ด้วยตนเอง รวมถึงสามารถกำหนดเป้าหมายการใช้เงิน โดยมีลูกค้าเป็นสถาบันการเงินต่างๆ ธนาคารและเครดิตยูเนี่ยน กว่า 240 แห่งในอเมริกาเหนือ

ภาพประกอบจาก internet

สถาบันการเงินเหล่านี้ นำบริการ PFM เข้ามาในหลากหลายวัตถุประสงค์ บ้างก็เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารเงินได้ด้วยตนเอง ช่วยลูกค้าตั้งเป้าหมายทางการเงิน บ้างก็เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ของตนเอง (share of wallet) หรือแม้แต่ใช้เพื่อส่วนหนึ่งของการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยสนับสนุนสุขภาพทางการเงิน และเมื่อสถาบันการเงินมีข้อมูลทางการเงินของลูกค้าอย่างเพียงพอ ตลอดจนทราบถึงพฤติกรรมในการใช้เงิน ก็สามารถทำความเข้าใจลูกค้า และบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าได้ดีขึ้น โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดยลูกค้าสองกลุ่มหลักๆ ที่เข้ามาใช้บริการ PFM คือ

1. กลุ่มที่ใช้เพื่อควบคุมติดตามการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นกลุ่มที่มักจะมีงบประมาณจำกัด ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ต้องการเครื่องมือง่ายๆ เพื่อติดตามรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน

และ 2. กลุ่มที่วางแผนในการใช้เงิน ต้องการควบคุมงบประมาณในการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ เช่น การทานอาหารนอกบ้าน การใช้เพื่อความบันเทิงต่างๆ ชฺ็อปปิ้ง เนื่องจากเวลาที่เราเกิดความ"อยาก"และเริ่มต้นใช้เงินเพื่ออะไรซักอย่างขึ้นมา คนส่วนใหญ่มักไม่สนใจสถานะการเงิน ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง ซึ่ง PFM ได้หารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมในการนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้ เช่นการแจ้งเตือนเมื่อใช้เงินสำหรับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกินวงเงินที่ตั้งไว้ หรือเกินจากค่าเฉลี่ยๆ ในเดือนก่อนๆ หรือแม้แต่เชื่อมต่อกับข้อเสนอของธนาคารสำหรับบริการทางการเงินที่เหมาะสมได้ในกรณีที่พบว่าลูกค้า"กำลังจะ"มีความจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ในปัจจุบันมีเงินในบัญชีไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในอนาคตอันใกล้

ภาพประกอบจาก moneydesktop

สำหรับผู้ให้บริการอย่าง Money Desktop นั้นเน้นไปที่การนำเสนอข้อมูลทางการเงินให้เข้าใจได้ง่ายๆ โดยใช้เทคนิคที่เราเรียกกันว่า การแสดงผลข้อมูลหรือ data visualization โดยมีลูกค้าเป็นธนาคารและเครดิตยูเนี่ยน กว่า 400 แห่ง การใช้เทคนิคทางภาพ เหมือนกับเรามี infographic ทางการเงินส่วนตัว เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเอง และที่น่าสนใจคือ โดยการใช้กราฟฟิคที่ดูง่ายๆ ก็ช่วยให้เราสามารถวางแผนทางการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลทางการเงิน เช่นพฤติกรรมการใช้จ่ายเหล่านี้ถูกออกแบบให้เข้าถึงตัวผู้ใช้งานได้ ในเวลาที่เหมาะสม ในทุกสถานที่โดยผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลูกค้าใช้อยู่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เมื่อข้อมูลสามารถเข้าถึงตัวลูกค้าวันละหลายๆ ครั้ง จะเสมือนว่าสถาบันการเงินและลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กันในทุกๆ ที่ทุกๆ เวลาได้อย่างเหมาะสม

เป็นที่คาดกันว่า PFM เหล่านี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่เราใช้บริการของธนาคารหรือ banking experience ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ช่องทางการใช้บริการ เวลาที่ทันต่อเหตุการณ์และรูปแบบข้อมูลที่เข้าใจได้ง่ายและเหมาะสม มีผลต่อการตัดสินใจและวางแผนทางการเงิน และเมื่อระบบเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น ระบบการชำระค่าสินค้าและบริการ การโอนเงิน การกู้ยืมแบบ Peer-to-peer ไปจนถึงการวิเคราะห์ credit score ของเรา เรียกได้ว่า ระบบและบริการทางการเงินจะถูกหล่อหลอมรวมเข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตของเราอย่างกลมกลืน